Tuesday, September 25, 2007

เป็น​กำ​ลังใจ​ให้​ผู้​สูงวัย เลือกหาอาชีพ​ใหม่​ทำ​เงิน

"ฮอฟฟ์​แมน​จาก​ซี​เอ็นเอ็น​ ​มันนี่​ ​มี​เรื่องคนดังสูงวัย​ใน​สหรัฐ​ ​ที่ประสบ​ความ​สำ​เร็จ​กับ​การเปลี่ยนงานแม้อายุมาก​ ​เพื่อจูงใจ​ให้​ผู้​สูงวัยคนไทยอยากหางานเหมาะสมทำ​ใน​อนาคต"
++++++++++++++++++++++++

​นับตั้งแต่ปลายเดือน​ ​ก​.​ค​.​จน​ถึง​ขณะนี้​ ​ผลกระทบกระจายวง​ ​จาก​ปัญหาตลาดสินเชื่อเพื่อที่​อยู่​อาศัยปล่อยกู้ลูกค้ามี​ความ​น่า​เชื่อถือต่ำ​ ​หรือ​ซับไพร์ม​ ​ยัง​ไม่​จบลงง่ายๆ​ ​และ​จะ​ยัง​คงปรากฏ​ให้​เห็นอย่างต่อ​เนื่อง​

​เมื่อ​เร็ว​นี้นักเศรษฐศาสตร์​และ​ผู้​เชี่ยวชาญ​ ​ประ​เมินว่าพิษร้ายวิกฤติซับไพร์ม​ ​ลงลึก​ถึง​พนักงานเกี่ยวข้องธุรกิจอสังหาริมทรัพย์​กับ​ก่อสร้าง​ ​ลาม​ถึง​ภาคการเงินของอเมริกา​กับ​อังกฤษ​ ​โดย​บุคลากรธุรกิจ​ทั้ง​ 3 ​ประ​เภท​ ​ตกงาน​แล้ว​อย่างน้อยแสนคน​ ​โดย​ตัวเลข​จะ​เพิ่มกว่านี้อาจทำ​สถิติสูงกว่าการปลดพนักงานอุตสาหกรรมการบินหลังเหตุวินาศกรรม​ 11 ​ก​.​ย.

​ทั้ง​นี้​ ​แชลเลนเจอร์​ ​เกรย์​ ​แอนด์​ ​คริสต์มาส​ ​อิงค์​. ​บริษัทจัดเก็บข้อมูลเกี่ยว​กับ​ตลาดแรงงานชั้นนำ​ของโลก​จาก​สหรัฐ​ ​ให้​รายละ​เอียดว่า​ ​จาก​การประกาศปลดคนงานของบริษัททำ​ธุรกิจปล่อยกู้​เพื่อที่​อยู่​อาศัย​ ​และ​ตัวเลขพนักงานบริษัทปล่อยกู้​หรือ​สินเชื่อเพื่อที่​อยู่​อาศัยหลายแห่งที่ตกงานนับ​จาก​ต้นปี​ 2550 ​มีจำ​นวนรวม​กัน​กว่า​ 4 ​หมื่นคน​แล้ว​ ​และ​มี​แนวโน้มตัวเลข​จะ​เพิ่มขึ้นมากกว่านี้​ใน​ระยะ​ใกล้

​ตัวเลขคนตกงาน​ใน​ธุรกิจ​ทั้ง​ 3 ​กลุ่มของสหรัฐคือ​ ​อสังหาริมทรัพย์​ ​การเงิน​และ​การก่อสร้าง​ ​ถือ​เป็น​การล้มครั้ง​ใหญ่​อีกครั้งของตลาดแรงงานสหรัฐ​ ​ซึ่ง​เป็น​สถานการณ์อันตรายน่ากลัว​ใกล้​เคียง​หรือ​อาจมากกว่าการปลดคนงานจำ​นวนมากมาย​ใน​อุตสาหกรรมการบิน​ ​หลังเกิดเหตุวินาศกรรมก่อการร้าย​ ​จี้​เครื่องบิน​โดย​สารชนอาคารเวิลด์​เทรดเมื่อวันที่​ 11 ​ก​.​ย​.44 ​ซึ่ง​เป็น​เหตุ​ให้​มีคนตกงานนับแสนคน

​หาก​จะ​มองปัญหาคนตกงาน​ใน​สหรัฐ​และ​อังกฤษ​ ​ว่า​เป็น​เรื่อง​ไม่​ไกล​ตัวก็คง​จะ​หนี​ไม่​พ้นประ​เด็นที่ว่า​ ​เรามีพี่น้อง​หรือ​ญาติๆ​ ​ซึ่ง​มีอายุงาน​หรือ​อยู่​ใน​วัย​ใกล้​เกษียณ​ใน​สหรัฐ​ ​ประกอบอาชีพ​หรือ​มีอาชีพรับจ้าง​ ​ที่​เกี่ยวข้อง​และ​ได้​รับผลกระทบ​โดย​ตรง​หรือ​ทางอ้อม​ ​จาก​ปัญหาตลาดสินเชื่อบ้าน​ใน​สหรัฐขณะนี้​หรือ​ไม่

​ถ้า​คำ​ตอบคือ​ใช่​ ​เนื้อหา​เรื่อง​ "10 ​คนดังสูงวัย​กับ​เส้นทางเปลี่ยนอาชีพ" ​ของ​ ​อี​.​ซี​. ​ฮอฟฟ์​แมน​ ​จาก​ซี​เอ็นเอ็น​ ​มันนี่​ ​น่า​จะ​เป็น​ตัวอย่างที่ญาติมิตรเมืองไทย​ ​นำ​ไปเล่าสู่​กัน​ฟัง​ให้​กำ​ลังใจคนทำ​งาน​หรือ​เจ้าของธุรกิจคนไทยสูงวัย​ใน​สหรัฐ​ ​ที่​ได้​รับผลพวง​ความ​เสียหาย​จาก​ซับไพร์ม​ ​ได้​ฉุกคิดเร่งรีบปรับตัว​ ​เปลี่ยนแนวทางไปทำ​ธุรกิจ​หรือ​อาชีพ​อื่น​ ​ที่​จะ​ช่วย​ให้​พวก​เขา​สามารถ​รอดพ้น​จาก​ปัญหาซับไพร์มฉุดเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว​ได้

​ฮอฟฟ์​แมน​ ​ยอมรับว่า​ ​คนสูงวัยอยากเปลี่ยนงาน​เพราะ​ต้อง​การ​จะ​เปลี่ยน​ ​และ​ทำ​เพื่อ​ความ​สุข​ใน​บั้นปลายของชีวิต​ ​แต่อีกหลายคน​ซึ่ง​อาจรวม​ทั้ง​คนไทย​ใน​สหรัฐ​ ​ที่กำ​ลัง​ได้​รับผลกระทบ​จาก​ซับไพร์ม​ ​การย่ำ​ทำ​งานอาชีพเดิม​ ​ย่อม​ไม่​ใช่​เรื่องดีอย่างแน่นอน​

​ดัง​นั้น​ ​เพื่อ​เป็น​กรณีตัวอย่าง​ ​และ​ลู่ทางที่คนดังหลายคน​ใน​สหรัฐ​ ​สามารถ​เปลี่ยนเส้นทางอาชีพเมื่ออายุย่าง​เข้า​เลข​ 5 ​เลข​ 6 ​แล้ว​ ​น่า​จะ​เป็น​ความ​สำ​เร็จที่​เป็น​แรงจูงใจ​ให้​ผู้​สูงวัยคนไทย​ทั้ง​ใน​ ​และ​ต่างประ​เทศ​ ​อยากหางานทำ​ ​ให้​เหมาะสม​กับ​บั้นปลายชีวิตที่​ยัง​ไม่​ถอดใจ​หรือ​หมดไฟง่ายๆ

​แต่​ด้วย​เนื้อที่มีจำ​กัด​ ​เรา​จึง​ได้​คัดบุคคลดังของสหรัฐ​ ​ที่ประสบ​ความ​สำ​เร็จ​กับ​งานอาชีพหลังเกษียณ​ ​มานำ​เสนอเพียงบาง​ส่วน​ ​ซึ่ง​คนไทยอาจรู้จัก​สามารถ​นำ​ข้อมูลมาปรับ​ใช้​ได้​มากที่สุด

"มาร์ธา​ ​สจ๊วต"

​ปัจจุบันสจ๊วต​ใน​วัย​ 65 ​ปี​ ​เป็น​ตัวอย่างของ​ความ​สำ​เร็จแรก​ใน​ชีวิตช่วงท้ายๆ​ ​สจ๊วต​เป็น​สตรีสหรัฐชื่อดัง​จาก​ข่าวอื้อฉาวเมื่อถูกกล่าวหาว่าทำ​อินไซเดอร์​ใน​อาชีพการเงิน​ ​จนชีวิตช่วงสั้นๆ​ ​ช่วงหนึ่ง​ ​ได้​ลอง​เข้า​ไปสัมผัส​ความ​เป็น​อยู่​ใน​เรือนจำ​สหรัฐ​ ​ซึ่ง​ข่าวของสจ๊วต​นั้น​คนไทย​ใน​วงการเงินคงเคย​ได้​ยิน​ ​และ​ทำ​ให้​รู้จักชื่อสจ๊วต​กัน​อยู่​บ้าง

​จาก​งานอาชีพแรกเริ่มคือ​ ​นางแบบมานาน​ 6 ​ปี​ ​ตั้งแต่ปี​ 2502-2508 ​สจ๊วตเปลี่ยนไปทำ​งาน​เป็น​นายหน้าค้าหลักทรัพย์​ ​หรือ​ที่​เรียก​กัน​ว่า​โบรกเกอร์​ ​ก่อนมาจับงานฝ่ายจัดเตรียมอาหาร​ใน​ปี​ 2519

​ด้วย​ประสบการณ์ผ่านงานอาชีพมา​ไม่​น้อย​ ​ใน​ที่สุดสจ๊วตมองหาอาชีพมั่นคง​อยู่​ได้​ด้วย​ตัวเอง​ใน​ระยะยาว​ ​คือ​ ​การฉีกแนวไปทำ​ธุรกิจสิ่งพิมพ์​และ​ธุรกิจบันเทิง​ ​ที่อิง​กับ​ประสบการณ์การเงิน​ ​นางแบบ​และ​รสนิยมการ​ใช้​ชีวิตของตัวเอง

​นิตยสารชื่อ​ "มาร์ธา​ ​สจ๊วต​ ​ไลฟ์วิ่ง" ​จึง​ถือกำ​เนิดขึ้นมา​ใน​ปี​ 2533 ​และ​เป็น​ที่มาของ​ ​มูลนิธิมาร์ธา​ ​สจ๊วต​ ​ไลฟ์วิ่ง​ ​ออมนิมี​เดีย​ ​ใน​ปี​ 2540 ​สจ๊วต​ยัง​เป็น​เจ้าของงานเขียน​เป็น​หนังสือกว่า​ 25 ​เล่ม

​สจ๊วต​ยัง​นำ​ชื่อเสียง​กับ​ประสบการณ์​ ​ร่วมธุรกิจ​กับ​บริษัทผลิตสินค้าหลากหลายประ​เภท​ ​ตั้งแต่​เสื้อผ้าลินินติดยี่ห้อมาร์ธา​ ​สจ๊วต​ ​ไปจน​ถึง​เฟอร์นิ​เจอร์สไตล์มาร์ธา​ ​สจ๊วต​ ​รวม​ถึง​การ​ใช้​เวลาว่างทุกวันนี้จัดรายการทีวี​กับ​วิทยุ​ด้วย

"​ไมเคิล​ ​บลูมเบิร์ก"

​กว่า​จะ​ถึง​วันนี้​ใน​วัย​ 65 ​ปี​ ​บลูมเบิร์กเก็บเกี่ยวประสบการณ์การ​เป็น​วาณิชธนากร​และ​นายธนาคาร​ ​ด้วย​การร่วมงาน​กับ​ ​ซา​โลมอน​ ​บรา​เดอร์ส​ ​มานาน​ 15 ​ปี​ ​ใน​ช่วงปี​ 2509-2524 ​และ​ต้อง​ออก​จาก​งาน​ใน​แผนกตรวจสอบข้อมูลเทคโนโลยี​หรือ​ไอที​

​บลูมเบิร์ก​ ​อาศัยวิสัยทัศน์​ ​สร้างช่องทาง​ให้​ข้อมูล​เป็น​กลางมีประสิทธิภาพ​และ​โปร่งใส​ ​ให้​แก่​ผู้​ซื้อ​กับ​ผู้​ขายหลักทรัพย์ทางการเงิน​ ​โดย​เฉพาะอย่างยิ่งตลาดตราสารหนี้​ ​ด้วย​การก่อตั้ง​ ​บลูมเบิร์ก​ ​แอลพี​. ​ใน​ปี​ 2524

​นับ​จาก​นั้น​เป็น​ต้นมา​ ​บลูมเบิร์ก​ ​แอลพี​. ​สามารถ​ขยายกิจการยกระดับ​เป็น​สำ​นักข่าว​ให้​ข้อมูลการเงิน​ ​มีชื่อเสียง​เป็น​ที่รู้จักระดับโลก​ ​มีพนักงาน​ 9,000 ​คน​ใน​ 130 ​ประ​เทศ​ ​แต่ปัจจุบันบลูมเบิร์กแยกตัวออกมา​จาก​กิจการที่​เขา​เป็น​ผู้​ก่อตั้ง

​เพราะ​ตั้งแต่ปี​ 2545 ​บลูมเบิร์กประสบ​ความ​สำ​เร็จ​จาก​การเบนเข็มสู่อาชีพ​ใหม่​ ​ด้วย​การชิงตำ​แหน่งนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก​ ​และ​ช่วงที่ผ่านมา​ ​บลูมเบิร์กพูดเสมอว่า​ ​เขา​จะ​ไม่​กลับไปทำ​งาน​กับ​ ​บลูมเบิร์ก​ ​แอลพี​.​อีก​ ​หลัง​จาก​ตัดสินใจหยุดอาชีพรับ​ใช้​ประชาชน​ใน​ตำ​แหน่งนายกเทศมนตรี​แล้ว

​ล่าสุดบลูมเบิร์กประกาศลาออก​จาก​พรรครีพับลิ​กัน​ ​จนทำ​ให้​ผู้​คน​ใน​วงการการเมืองสงสัย​กัน​ว่า​ ​บลูมเบิร์กอาจสนใจลงสมัครชิงตำ​แหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ​ใน​ปี​ 2551

"​โจซี​ ​นา​โทริ​"

​เป็น​อีกหนึ่งตัวอย่างของการเปลี่ยนอาชีพ​ ​ใน​ช่วงบั้นปลายของชีวิตที่น่าสนใจ​ ​เพราะ​นา​โทริ​ใน​วัย​ 60 ​ตอนนี้​ ​ถือ​เป็น​ต้นแบบของคน​ใน​วงการการเงินการธนาคาร​ ​ที่หันเหอาชีพ​และ​ชีวิต​ ​ทำ​ใน​สิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ

​นา​โทริทำ​งาน​เป็น​วาณิชธนากรตั้งแต่ปี​ 2514-2518 ​และ​นับ​เป็น​ผู้​หญิงคนแรก​ใน​วงการวาณิชธนกิจสหรัฐ​ ​ที่​สามารถ​ทำ​งาน​ได้​ดี​ใน​ระยะ​เวลา​เพียง​ 2 ​ปี​ ​จน​ได้​นั่งตำ​แหน่งรองประธาน​ ​และ​ร่วมงาน​กับ​ ​เมอร์ริล​ ​ลินช์​ ​อีกระยะหนึ่ง

​ใน​วัยเด็กเพียง​ 9 ​ขวบนา​โทริ​ ​ซึ่ง​ถือสัญชาติฟิลิปปินส์​ ​มี​โอกาสแสดงฝีมือเดียวเปียโน​ใน​งานคอนเสิร์ต​ ​มะนิลา​ ​ฟิลฮาร์​โมนิค​ ​ออร์​เคสตรา​ ​ส่วน​การศึกษาทางวิชาการ​ ​นา​โทริจบสาขา​เศรษฐศาสตร์​จาก​แมนฮัตตัน​ ​วิลล์​ ​คอลเลจ​ใน​นิวยอร์ก​ ​ก่อนเริ่มอาชีพแรก​ใน​กับ​ ​เมอร์ริล​ ​ลินช์​ ​วาณิชธนกิจชั้นนำ​ของสหรัฐ

​แม้นา​โทริมี​โอกาสก้าวหน้า​ใน​งานวาณิชธนกิจ​ ​แต่​เธอกลับเปลี่ยนใจอยากมี​ความ​สุข​กับ​การงานที่ตัวเองเลือก​ได้​ ​บนพื้นฐาน​ความ​ชื่นชอบทางดนตรี​และ​ศิลปะ​ ​ด้วย​การลาออก​จาก​ ​เมอร์ริล​ ​ลินช์​ ​ขณะที่นั่งตำ​แหน่งสุดท้าย​เป็น​รองประธานฝ่ายวาณิชธนกิจ​ใน​ปี​ 2515 ​เพื่อก่อตั้งธุรกิจผลิตชุดชั้น​ใน​ราคา​แพงสวยหรูสำ​หรับสตรีมีราย​ได้​สูง​

​นับ​จาก​นั้น​เป็น​ต้นมา​ ​นา​โทริ​ ​คอมปานี​ ​ก็ถือกำ​เนิด​โดย​เริ่ม​จาก​การทำ​ธุรกิจ​ใน​ห้องนั่งเล่นที่บ้านของตัวเอง​ ​และ​ธุรกิจ​สามารถ​เติบโต​ด้วย​ดีตลอดมา​ ​ปัจจุบันนา​โทริคือ​ ​ผู้​ก่อตั้ง​ ​และ​มีตำ​แหน่งประธาน​กับ​ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ​ ​นา​โทริ​ ​คอมปานี

"อัล​ ​กอร์​ ​จู​เนียร์​"

​คนดังสูงวัยกรณีตัวอย่างสุดท้ายนี้​ ​มีชื่อ​เป็น​ที่รู้จักของคนไทย​อยู่​บ้าง​ไม่​มากก็น้อย​ ​เพราะ​เขา​คือ​ ​อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ​ ​ใน​สมัยที่บิล​ ​คลินตัน​ ​ยัง​อยู่​ใน​ตำ​แหน่งประธานาธิบดี​

​กอร์มีอดีตที่​โชกโชน​ไม่​น้อยก่อน​จะ​ลงตัว​อยู่​กับ​อาชีพ​ใน​แวดวงบันเทิง​ ​ใน​วัยหนุ่มหลัง​จาก​จบการศึกษาระดับเกียรตินิยมด้านการปกครอง​ ​จาก​มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด​ใน​ปี​ 2512 ​เขา​ได้​อาสาสมัคร​เข้า​กองทัพสหรัฐ​ ​และ​ไปร่วมรบ​ใน​สงครามเวียดนาม​

​หลังสงครามเวียดนามสิ้นสุดลง​ ​กอร์บินกลับสหรัฐพร้อม​กับ​เริ่มต้นอาชีพนักข่าว​กับ​ ​เดอะ​ ​เทนเนสเซียน​ ​จาก​นั้น​ไม่​กี่ปี​ใน​ปี​ 2519 ​เขา​เบนเข็มอาชีพสู่วงการการเมือง​

​โดย​กอร์​ได้​รับเลือกตั้ง​ให้​เป็น​หนึ่ง​ใน​สมาชิกสภา​ผู้​แทนสหรัฐ​จาก​มลรัฐเทนเนสซี​ ​และ​เมื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์การเมือง​ได้​มากพอ​ ​เขา​ได้​ร่วมลงแข่งขันชิงตำ​แหน่งรองประธานาธิบดีคู่​กับ​คลินตัน​ ​ก่อน​จะ​ยุติอาชีพทางการเมือง​ ​หลังพ่ายแพ้​ให้​กับ​จอร์จ​ ​ดับเบิลยู​ ​บุช​ใน​การเลือกตั้งประธานาธิบดี​ใน​ปี​ 2543

​แต่​ด้วย​ชื่อเสียงหน้าตา​และ​บุคลิก​ ​เป็น​ที่ชื่นชอบของคนสหรัฐ​ ​อดีตรองประธานาธิบดี​ผู้​นี้​ได้​ผันตัวเองไปทำ​ธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน​โดย​ก่อตั้งบริษัทผลิตรายการโทรทัศน์ชื่อ​ Current TV

​ปัจจุบัน​ด้วย​วัย​ 59 ​ปี​ ​กอร์นั่งตำ​แหน่งประธานของ​ Current TV ​ผลิตเนื้อหารายการโทรทัศน์​และ​สารคดี​ ​ซึ่ง​เคยมีสารคดีรับรางวัลออสการ์มา​แล้ว​ ​คือ​ An Inconvenient Truth ​กอร์​ยัง​ติดทำ​เนียบบุคคลดัง​ ​ที่​เป็น​เจ้าของงานเขียน​ ​หรือ​มีหนังสือยอดนิยมขายดี​ใน​สหรัฐ​ด้วย